สาเหตุที่ทำให้เบี้ยประกันถูกลง แฟร์ดีโบรกเกอร์ประกันภัย

9 สาเหตุที่ทำให้เบี้ยประกันถูกลง ทำอย่างไร?

หากคุณต้องการทำประกันรถยนต์ เพื่อได้รับความคุ้มครองดูแลเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุฉุกเฉินขณะขับขี่ ฉะนั้นเราจึงควรทราบถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ ว่าสาเหตุใดที่ทำให้การทำประกันรถยนต์นั้นมีราคาค่าเบี้ยไม่เท่ากัน ตามแฟร์ดีโบรกเกอร์ไปดูกัน >>

มาเช็คสาเหตุที่ทำให้เบี้ยประกันถูกลง ทำอย่างไร?

1 มีประวัติขับขี่ดี ไม่มีประวัติการเคลม

จากพฤติกรรมการขับขี่ด้วยความระมัดระวัง จะช่วยลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้เป็นอย่างมาก ทำให้ไม่มีประวัติการเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่

และส่งผลให้เบี้ยประกันภัยรถยนต์ถูกลง เนื่องจากไม่มีประวัติการเคลม  ไม่เกิดอุบัติเหตุเลย หรือหากเคลมแต่ไม่ได้เป็นฝ่ายผิดผู้เอาประกันภัยก็จะได้รับส่วนลดเพิ่มเติมในการต่อเบี้ยประกันรถยนต์ในปีถัดไปอย่างแน่นอน (ส่วนลดตามจำนวนปีที่ไม่มีการเคลม )

 

ในขณะเดียวกัน หากปีที่ผ่านมามีประวัติการเคลม หรือประวัติการเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่ เกิดขึ้นบ่อย ๆ แน่นอนว่าจะทำให้ค่าเบี้ยประกันรถยนต์ปีต่อไปของคุณสูงขึ้นนั่นเอง

2 ทำประกันรถยนต์แบบระบุชื่อผู้ขับขี่

การทำประกันรถยนต์แบบระบุชื่อผู้ขับขี่ (ผู้ที่มีใบอนุญาตขับขี่)  สามารถทำให้บริษัทประกันภัยลดค่าเบี้ยประกันให้ถูกลงได้ เหมาะสำหรับผู้ใช้รถยนต์ของตัวเองเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่ได้มีการเปลี่ยนผู้ขับขี่บ่อย ๆ  

 

เนื่องจากทางบริษัทแน่ใจได้ว่ารถยนต์คันเอาประกันนั้นมีผู้ขับขี่เพียงคนเดียวหรือไม่กี่คน ส่งผลให้อัตราการเกิดอุบัติเหตุนั้นลดน้อยลง และทำให้ราคาเบี้ยประกันรถยนต์นั้นถูกลงไปด้วย

3 อายุ

อายุ และประสบการณ์การขับขี่รถยนต์เป็นอีกสิ่งที่บริษัทประกันภัยจะเสนอเบี้ยประกันภัยรถยนต์ที่ถูกลงให้ได้ โดยวิเคราะห์ข้อมูลการเคลมของลูกค้า และรายงานด้านความปลอดภัยในตลาดอุตสาหกรรมรถยนต์ ระบุว่าผู้ขับขี่ที่มีอายุน้อยบริษัทประกันภัยจะถือว่ามีอัตราเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุมากกว่า เนื่องจากประสบการณ์การขับรถนั้นยังน้อยอยู่นั่นเอง 
ฉะนั้นแล้วการทำประกันภัยรถยนต์ด้วยการระบุอายุผู้ขับขี่นั้น จึงมีผลต่อราคาค่าเบี้ยประกันรถยนต์ด้วยเช่นกัน 

4 ประเภทของประกันรถยนต์ที่ตอบโจทย์

เลือกทำประกันรถยนต์ที่เหมาะกับการใช้รถ แน่นอนว่าเมื่อจะทำประกันรถยนต์เพราะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด จึงควรเปรียบเทียบแพ็กเกจประกันที่ตอบโจทย์กับการใช้งานการใช้รถ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียค่าเบี้ยประกันไปอย่างไม่คุ้มค่า 

(สามารถอ่านบทความ ประกันชั้น 2+ 3+ แตกต่างกันอย่างไร คลิก!)

5 เลือกจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกเพื่อให้เบี้ยถูกลง

ค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) เป็นหลักเกณฑ์ที่ทางคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้กำหนดเอาไว้ให้ทุกบริษัทประกันภัยได้ใช้ในการดำเนินการ ซึ่งการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในส่วนนี้นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันผู้ที่แจ้งเคลมโดยไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจริง หรือหวังซ่อมรถกับบริษัทประกันภัย เพราะคิดว่าสามารถเคลมเมื่อไหร่ก็ได้ ทำให้มีการขับรถด้วยความประมาท หรือไม่ใช้ความระมัดระวังมากพอ จนทำให้เกิดความเสียหายขึ้นกับรถได้

โดยหากผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายผิดจะต้องจ่ายค่าเสียหายดังกล่าวในการเคลมประกัน แต่หากไม่ได้เป็นฝ่ายผิดก็ไม่ต้องจ่ายนั่นเอง เป็นการรับผิดชอบร่วมกับบริษัทประกันภัย 

ฉะนั้นทางเลือกในการจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก ยิ่งทำให้เบี้ยประกันถูกลง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีทักษะในการขับขี่ที่ดี และมีความชำนาญในการขับรถยนต์ 

อ่านเพิ่มเติมคลิก >>บทความ

6 ยี่ห้อ รุ่นรถ ปีที่ผลิต

รถรุ่นใหม่ หรืออายุของรถก็มีผลต่อเบี้ยประกันรถยนต์ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น รถรุ่นใหม่ที่มีราคาแพงมักจะเป็นเป้าหมายในการถูกโจรกรรม จึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยในราคาที่สูงขึ้น แตกต่างกับรถยิ่งเก่าก็จะมีราคาเบี้ยที่ถูกลงไปเรื่อย ๆ รวมถึงทุนประกันซึ่งจะลดลงไปในทุก ๆ ปี ตามค่าความเสื่อมของรถยนต์นั่นเอง

7 การติดตั้งกล้องติดรถยนต์

เพียงแค่ติดตั้งกล้องติดรถยนต์ ก็ได้ส่วนลดเบี้ยประกันภัย  5-10% ตามกฎเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สำหรับผู้เอาประกันภัยที่ติดกล้องหน้ารถในรถยนต์ทุกชนิด ซึ่งจะเป็นการช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถบันทึกเหตุการณ์อุบัติเหตุของรถยนต์ที่ทำประกันภัยเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาสินไหมทดแทนให้กับบริษัทประกันภัยได้

8 ทุนประกันและความคุ้มครอง

สำหรับผู้ที่ขับรถได้อย่างชำนาญแล้ว และต้องการความคุ้มครองที่ตอบโจทย์กับการใช้งาน การลดทุนประกัน หรือเลือกทำประกันชั้น 2+ หรือ 3+ ที่ให้ความคุ้มครองแทน ยิ่งทำให้ค่าเบี้ยประกันถูกลง 

 

แน่นอนว่าหากต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุม และมีทุนประกันที่สูง70 – 80 % ของมูลค่าประเมินของรถยนต์ ค่าเบี้ยประกันที่จะต้องจ่ายในแต่ละปีนั้นก็จะสูงตามไปด้วย

9 ซ่อมห้างหรือซ่อมอู่

การเลือกซ่อมศูนย์ซ่อมรถยนต์ หรือเรียกสั้นๆ ว่าซ่อมห้างนั้น แน่นอนว่าจะทำให้ค่าเบี้ยประกันสูง เนื่องจากการซ่อมศูนย์นั้นมีมาตรฐานกว่า ค่าอะไหล่และค่าบริการนั้นก็จะมีราคาสูงกว่านั่นเอง แต่ถ้าหากคุณเลือกซ่อมอู่  เบี้ยประกันจะถูกกว่า ซึ่งข้อนี้ถือเป็นอีกปัจจัยที่มีผลต่อราคาค่าเบี้ยประกัน

คุณสามารถทำประกันรถยนต์กับตัวแทนแฟร์ดีทั่วประเทศได้แล้ววันนี้!

แฟร์ดี โบรกเกอร์ ประกันภัย เรามีระบบเปรียบเทียบเบี้ยประกันหลากหลายบริษัท เพื่อให้ตัวแทนขายประกันทำงานง่าย และเสนอแพ็กเกจที่ตอบโจทย์กับลูกค้าคนสำคัญ

 

สนใจเป็นตัวแทนขายประกันรถยนต์ หรือแนะนำเพื่อน เพื่อรับส่วนลดมาตราฐาน และได้รับส่วนลดเบี้ยประกัน หรือสิทธิพิเศษอื่นๆ ให้คุ้มค่าที่สุด มาร่วมทีมขายกับแฟร์ดีได้เลยนะครับ #เลือกประกันภัยรถยนต์ ที่แฟร์ดีเราแฟร์และแคร์ตัวแทนสูงสุด พร้อมทีมเจ้าหน้าที่สนับสนุนคุณอย่างเต็มที่

ระบบเช็คเบี้ย ทันใจ ภายใน 30 วิ

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน FairDee ผ่านระบบ IOS และ Android

Share :

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความรู้ประกันรถยนต์

พ.ร.บ. รถยนต์คุ้มครองอะไรบ้าง? ฉบับ 2567

ลงทะเบียนเลย >> จังหวัดศรีสะเกษ, กระบี่, ลำปาง, สมุทรปราการ เตรียมพบกับ ผู้บริหาร บริษัท แฟร์ดี โบรกเกอร์ ประกันภัย จำกัด และแขกรับเชิญจากบริษัทประกันคู่ค้าของเรา ด่วน! 80 ที่นั่ง/จังหวัดเท่านั้น

อ่านต่อ
หน้าฝนมาแน่! วางแผนการเดินทางให้ปลอดภัยกับถนนทุกสาย
ความรู้ประกันรถยนต์

หน้าฝนมาแน่! วางแผนการเดินทางให้ปลอดภัยกับถนนทุกสาย #แฟร์ดีแคร์คุณ

ช่วงนี้ฝนตกหนักทุกวัน แต่ทุกคนก็ต้องเดินทางไปทำงาน หรือไปท่องเที่ยวหน้าฝนกันอยู่ โดยปีนี้จะมีฝนตกชุก ครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศไทย ฉะนั้นเรามาเตรียมพร้อมการขับขี่รถยนต์บนท้องถนนให้ปลอดภัยในทุกเส้นทางกันดีกว่า >>>

อ่านต่อ
3-สิ่งที่คนมีรถต้องมี-!-พ.ร.บ.-,-ประกันรถยนต์,-ต่อภาษีประจำปี
ความรู้ประกันรถยนต์

3 สิ่งที่คนมีรถต้องมี ! พ.ร.บ. , ประกันรถยนต์, ต่อภาษีประจำปี

เพิ่มยอดขายให้เติบโตในธุรกิจประกันภัย ด้วยเทคนิคมืออาชีพที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และเพิ่มยอดขายให้กับตัวแทนขายประกันเช่นคุณ เรามาดูเทคนิคการขายประกัน อย่างยั่งยืนกันเลยดีกว่า

อ่านต่อ